ข้อมูลทั่วไปของวัดวัดชัยศรีภูมิ
- ชื่อวัด: วัดชัยศรีภูมิ
- ประเภทวัด: วัดราษฎร์/พัทธสีมา
- นิกาย: มหานิกาย
- พระภิกษุ: 4 รูป
- สามเณร: 3 รูป
- ที่ตั้ง: เลขที่ หมู่ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ รหัสไปษณีย์ 50300
ประวัติความเป็นมา
วัดชัยศรีภูมิ์ หรือวัดศรีภูมิ์ ได้รับการยกย่องให้เป็นศรีเมืองเชียงใหม่ เริ่มตั้งแต่สมัยพระญามังรายตั้งเมืองเชียงใหม่ ในปี จ.ศ. 623 หรือ พ.ศ. 1805 เนื่องจากบริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเชียงใหม่ถูกให้เป็นศรีของเมือง เริ่มตั้งแต่พระญามังรายปรึกษากับพระญางำเมืองและพระญาร่วงเพื่อตั้งหอนอนและคุ้มน้อยแล้ว จากตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ได้ระบุถึงทิศนี้ว่ามีความสำคัญ ๒ ประการคือ ประการที่หนึ่งเป็นที่ตั้งอยู่ของต้นไม้นิโครธซึ่งเป็นศรีของเมืองหรือไม้เสื้อเมืองเชียงใหม่ ดังปรากฏความว่า “. . . ในขณะนั้นยังมีหนูเผือกตัว 1 ใหญ่เท่าดุมเกวียนมีบริวาร 4 ตัว ลุกแต่ไชยภูมิออกไพหนวันออกช้วยใต้ เข้าไพสู่รูสู่อัน 1 ในเคล้าไม้ ผักเรือก ไม้นิโครธ ก็ว่า เป็นคำม่านว่าไม้ผิงยอง บ่ไกลแต่ไชยภูมิเท่าใด พระญาทั้ง ๓ หันหนูเผือกเป็นอัจฉริยะ จึงพร้อมใจกันเอาเข้าตอกดอกไม้ไปบูชาพระญาหนูเผือกในเคล้าไม้นิโครธต้นนั้น ด้วยเข้าตอกดอกไม้อันใส่ไตรคำ แล้วก็หื้อล้อมรักษา หื้อดี ลวดปรากฏเป็นไม้เสื้อเมืองมาต่อเท้าบัดนี้แล”
ประการที่สอง บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของหนองใหญ่ ซึ่งเป็น หนึ่งในชัยภูมิเจ็ดประการของการตั้งเมืองเชียงใหม่ของพระญามังราย ความว่า “. . . อัน 1 หนองใหญ่มีวันออกช้วยเหนือแห่งไชยภูมิได้ชื่อว่า อีสาเนน สรา นรปูชา ว่าเป็นหนองใหญ่มีหนอีสาน ท้าวพระญาต่างประเทศจักมาบูชาสักการะมากนักเป็นไชยมังคละถ้วน 6 แล”
ความสำคัญของไม้ศรีเมืองหรือไม้เสื้อเมืองนี้สืบต่อกันมายาวนาน จนกระทั้งถึง การครองราชย์ของพระญาติโลกกษัตริย์ราชวงค์มังราย (ระหว่าง พ.ศ. ๑๙๘๕-๒๐๓๑) ซึ่งมีเดชานุภาพมากเป็นที่เกรงขามแก่พระญาเจ้าเมืองทั้งหลายในขณะนั้นพระญาใต้ปรัมมราชาได้ส่ง หานพรหมสะท้านและชีมล่าน มาเป็นไส้ศึกสอดแนมถึงความมีอนุภาพของเมืองเชียงใหม่เพื่อจะทำลายล้าง ดังมีข้อความว่า “. . .หานพรหมสะท้านว่า ยังมีไม้นิโครธต้น 1 เป็นสรีเมือง ตั้งอยู่หนอีสานแห่งเมืองชะแล ว่าอั้น ชีมล่านจึงว่า ตราบใดไม้ต้นนั้นบ่ฉิบหาย เมืองเชียงใหม่ก็ยังมีอนุภาพนักแล” (ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่, 2538 : 75)
ต่อมาแผนการของชีมล่านได้สำเร็จลงโดยการทำให้พระญาติโลกเชื่อในสิปปะคุณของตน มีการขุดปราการเวียงซึ่งพระญามังรายได้สร้างไว้แล้วถมเวียงให้ราบเพียงดี ขุดไม้ทั้งหลายออกและตัดไม้นิโครธด้วย แล้วจึงให้ตั้งบ้านเรือนบริเวณนี้แล้วปลงสะนามว่า สรีภูมิ มีการสร้งประตูดินชื่อ ประตูสรีภูมิ และขัวสรีภูมิในปีนั้นด้วย (ประมาณ จ.ศ.828 หรือ พ.ศ. 2010)
ส่วนหนองใหญ่นั้นเป็นที่ช้าง ม้า วัว ควาย ลงอาบกินตั้งแต่อดีตนั้นยังเป็นแหล่งรับน้ำจากคูเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำไม่ท่วมตัวเวียง หนองน้ำขนาดใหญ่แห่งนี้ยังคงปรากฏในแผนที่ พ.ศ. 2443 ของเจมส์ แมคคาร์ธี ที่สำรวจครั้งเตรียมโครงการทางรถไฟสายเหนือ แผนที่ พ.ศ. 2447 ที่สำรวจครั้งจอมพลพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงนครไชยศรีสรุเดช เสด็จพักผ่อนพายเรือ ตกปลาและเก็บผักในหนองของคนในเมืองเชียงใหม่ ที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของคนร่วมสมัยที่มีอายุประมาณ 50 ปีขึ้นไป (สมโชติ อ๋องสกุล, ผังเมืองเชียงใหม่ในฐานะเมืองประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต, 2539) ปัจจุบันมีการถมที่หนองใหญ่สร้างอาคารพาณิชย์และบ้านเรือนและสร้างถนนตัดผ่านสองสายคือถนนอัษฏาธรและถนนรัตนโกสินท์
แหล่งที่มา: http://culture.mome.co/watchaisriphum/
สถานะภาพของวัดในปัจจุบัน
• ได้รับอนุญาตตั้งเป็นวัด พ.ศ. 2455
ข้อมูลเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2555