เดิมที่บ้านม่วงโตนแห่งนี้ เคยเป็นป่ารกมีป่าไม้สักขึ้นมากมายตั้งแต่เทือกเขาบ้านสันเข้าแคบกลาง ถึงบ้านแม่จ้อง แต่เทือกเขาด้านเหนือบ้านป่าไผ่ แม่โป่ง จดสันกำแพง มีสัตว์ใหญ่ขนาดเสือโคร่งก็อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะเป็นป่ารก เต็มไปด้วยป่าไม้ไผ่และเคลือเถาวัลย์นานาชนิด จึงมีสัตว์อาศัยอยู่มากมาย ทางเดินผ่านป่านี้ต้องเสียเวลาพักนอนกลางทางหลายคืน เพราะทางคดเคี้ยวเลี้ยวไปตามป่าใหญ่
คนที่มาตั้งบ้านม่วงโตนทีแรก คือ พ่อเฒ่าสุข แม่มูล บ้านแม่ก๊ะใต้ ต.ตลาดใหญ่ มาตั้งรากฐานทำไร่ใส่สวนอยู่ด้านใต้วัดประมาณ ๑๕๐วา ต่อมาก็มีผู้มาอาศัยอยู่เรื่อยๆ ประมาณ ๗ หลังคาเรือน แล้วก็เจริญขึ้นเป็นลำดับ ตลอดป่าก็ถูกแผ้วถางเป็นไร่นาโดยเชื้อพระวงศ์ของเจ้านครเชียงใหม่เป็นผู้จัดขายให้ราษฎร ป่าไม้เลยถูกล้มเป็นที่นาราบโล่งเตียน และที่ว่างเกินประโยชน์ทำนารายได้ข้าวปีหนึ่งประมาณหลายล้านถัง เต็มไปด้วยบ้านผู้คนจนแทบหาที่อยู่ไม่ได้ เพราะการวิวัฒนาการของโลกปัจจุบันนี้
เกิดมีวัดขึ้น ตามหลักธรรมดานิสัยของคนผู้นับถือพระพุทธศาสนา ไปไหนก็มีศาสนาติดตามไปด้วย เมื่อพ่อเฒ่าสุข แม่มูลมาอยู่ในป่านานมา จึงพบวัดร้างแห่งหนึ่ง จึงดีใจอยากจะสร้างเป็นวัดถาวรขึ้น วัดนี้ไม่ปรากฏขึ้น มีรากฐานอิฐเรี่ยราด มีรูปฐานกว้างเพียง ๖ ศอก ยาว ๘ ศอก เป็นรูปวิหาร ก็พอดีเวลานั้นมีพระเดินทางป่ามาจากเมืองพะเยา ๒ รูปคือ พระสุรินท์ กับพระมูล และได้มาร่วมกับพ่อเฒ่าสุขสร้างวัดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๘๓ และได้สร้างกุฏิเล็กกับกลองบูชาไว้ปรากฏจนทุกวันนี้
มูลเหตุที่ได้นามว่า วัดม่วงโตน และบ้านม่วงโตน เนื่องจากวัดถาวรรังสีเดิมชื่อว่า “วัดม่วงโตน” ตามชื่อบ้านเหตุที่ได้นามว่า “ม่วงโตน” เพราะมีต้นมะม่วงโตนใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง มีขนาดใหญ่หลายคนโอบ จากโคนถึงค่าคบ ๑๐ กว่าเมตรมีกิ่งใหญ่ ๒-๔ ด้านละ ๑๐ กว่าเมตร มีผสมหลายรส กิ่งหนึ่งก็มีรสหลาย รสชาติไม่เหมือนกัน ต้นเดิมอยู่ตรงประตูวัดด้านตะวันตก (ใกล้ๆ กับเจดีย์ปัจจุบัน) เหตุที่ไม้ตายเพราะถูกไฟเผาเนื่องจากมีนกเค้าแยก อาศัยอยู่มากเนื่องจากข้างในต้นไม้เป็นโพลง พระเณรเบื่อเสียงนก จึงได้เอาไฟเผาให้นกหนีทำให้ไฟไหม้ต้นมะม่วงหมด จึงไม่เหลือหลักฐานให้เราเห็นในปัจจุบัน จากการสอบถามปรากฏว่าต้นมะม่วงนี้ถูกปลูกขึ้นเพื่อหมายทางเดินของช้างเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่สมัยก่อน และทางช้างเดินก็มีปรากฏอยู่บางแห่งในปัจจุบันนี้ เหตุที่ได้นามว่า “วัดถาวรรังษี” เพราะในปี ๒๔๘๑ ทางคณะสงฆ์คือ พระครูรัตนปัญญาญาณ (เจ้าคุณโพธิรังษี)เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่สมัยนั้น มาตรวจการคณะสงฆ์ได้เห็นวัดนี้สะอาดเรียบร้อยดี เป็นหนึ่งในอำเภอดอยสะเก็ด และมั่นคงถาวรดี เห็นจะเจริญต่อไปในวันข้างหน้า จึงเปลี่ยนชื่อวัดม่วงโตน (ไม้ม่วงใหญ่ต้นเดียว) เป็นวัดถาวรรังสี แปลว่า(รัศมีแห่งความมั่นคง) วัดนี้ตั้งอยู่ในเขตติดต่อระหว่างอำเภอสันกำแพงและดอยสะเก็ด คือ จาก อ.ดอยสะเก็ดมาถึงราว ๙ กม. จากอำเภอสันกำแพงมาถึงราว ๖ กม. นับว่าสถานที่แห่งนี้ ถึงความเจริญตามลำดับ
คำขวัญประจำวัด
วัดสวยงามตา องค์พระปฏิมางามเลิศ
ถิ่นกำเนิดเจ้าคุณสิงห์ ยิ่งด้วยวัฒนธรรมประเพณี
ศีลธรรมนำประชา ศรัทธาสามัคคี ๔ หมู่บ้าน
เรื่องลือนาม "ถาวรรังษี" ดุจดัง "รัศมีแห่งความมั่นคง"
• วัดพัฒนาตัวอย่าง เมื่อวันที่ 5 เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2530
• วัดพัฒนาดีเด่น เมื่อวันที่ 5 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549
• ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 10 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2491
ตรงข้ามกับวัดเป็นที่ตั้งร้านอาหารเยอรมัน"ไส้กรอกเยอรมัน"ชื่อร้าน "จี แอนด์ เอ็ม"เป็นที่รู้จักแก่นักชิมทั้งหลายที่แวะเวียนมาชิมบ่อย ๆรสชาติเยอรมันแท้ ราคาถูกใจ วันอาทิตย์บริการแบบ บุปเฟ่ เป็นสถานที่อีกที่หนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างประเทศต้องรู้จัก ถ้านึกถึงดอยสะเก็ด ก็ต้องเอ่ยชื่อ ร้าน"ไส้กรอกเยอรมัน" จีแอนด์ เอ็ม"