ข้อมูลทั่วไปของวัดวัดสันก้างปลา
- ชื่อวัด: วัดสันก้างปลา
- ประเภทวัด: วัดราษฎร์/พัทธสีมา
- นิกาย: มหานิกาย
- พระภิกษุ: 14 รูป
- สามเณร: 6 รูป
- ลูกศิษย์วัด: 3 คน
- ที่ตั้ง: เลขที่ 1/2 หมู่ 6 สันก้างปลา ตำบลทรายมูล อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ รหัสไปษณีย์ 50130
- โทร: 053-332041
- แฟกซ์: 053-332042
- เว็บไซต์: www.watsankangpla.com
ประวัติความเป็นมา
วัดสันก้างปลา ตั้งอยู่ ตำบลทรายมูล อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ วัดแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2527 เกิดขึ้นด้วยความเห็นชอบของคณะศรัทธาประชาชนในหมู่บ้าน อาศัยความเสียสละสามัคคีร่วมแรงร่วมใจกันอย่างแข็งขันของชาวบ้านได้รวบรวมทุนปัจจัยร่วมกันซื้อพื้นที่นาแล้วพัฒนาขึ้นมาให้เป็นวัดในพระพุทธศาสนา สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2539
หมู่บ้านสันก้างปลา เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ชาวไทเขินที่ถูกกวาดต้อนมาจากประเทศพม่า โดยชาวไทเขินบ้านสันก้างปลาได้อพยพจากเมืองเชียงตุงเข้าสู่ประเทศไทย ตามข้อสันนิษฐานของนักวิชาการประวัติศาสตร์ ในรัชสมัยพระเจ้ากาวิละครองเมืองเชียงใหม่ได้รวบรวมกำลังขับไล่พม่าออกไปแล้วบ้านเมืองกลายเป็นเมืองร้าง เพราะประชาชนหลบหนีภัยสงครามไปอยู่ตามป่าเขาบ้าง หรือถูกกวาดต้อนไปอยู่ที่อื่นๆ ซึ่งคุณไกรศรี นิมมานเหมินทร์ กล่าวว่าการตั้งบ้านของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยในเชียงใหม่และจังหวัดอื่นๆ ในภาคเหนือนั้นเป็นไปตามนโยบาย “เก็บผักใส่ซ้า เก็บข้าใส่เมือง” ของพระเจ้ากาวิละซึ่งได้ส่งกองทัพล้านนาออกไปเกลี้ยกล่อมชักจูงให้ประชาชนกลับมายังถิ่นเดิมของตน ดังคำประกาศของพระยาอุปราชธรรมลังกาว่า “ลัวะหื้อออกมาแปงไฮ่ ไทหื้อออกมาแป๋งนา” และการทำสงครามเพื่อกวาดต้อนเอาไพร่พลจากเมืองต่างๆมาพัฒนาเมืองเชียงใหม่
ชาวไทเขิน บ้านสันก้างปลา ได้รวมกลุ่มกันเป็นเครือญาติมาตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณสันดอนที่มีต้นไม้ก้างปลาขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านได้พร้อมใจกันทำการแผ้วถางป่าไม้ก้างปลาเหล่านั้น และสร้างเป็นบ้านเรือนเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย จึงถือเอามงคลนามของต้นไม้ก้างปลาที่ขึ้นอยู่บริเวณนั้นเป็นชื่อของหมู่บ้านว่า “บ้านสันก้างปลา” ตลอดระยะเวลากว่าสองร้อยปีที่ชาวไทเขินกลุ่มนี้ตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มใหญ่ และขยายตัวไปตั้งบ้านที่บ้านหัวทุ่ง และบ้านทรายมูล โดยมีวัดทรายมูล ตำบลทรายมูล อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทเขิน จนกระทั่ง ปี พ.ศ. 2527 ชาวไทเขินบ้านสันก้างปลาได้รวมตัวกันสร้างวัดใหม่ชื่อว่า “วัดสันก้างปลา” เพื่อเป็นสถานที่บำเพ็ญศาสนกิจทางพระพุทธศาสนาและเป็นที่ยึดเหนี่ยวของชาวไทเขิน
วัดสันก้างปลา เป็นวัดมุ่งมั่นที่จะสืบทอดพระพุทธศาสนาตามหลักคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า โดยอาศัยวิถีวัฒนธรรมชุมชนเป็นพื้นฐานในการเผยแผ่หลักธรรม เน้นการปฏิบัติธรรมตามแนวการหลุดพ้น นำหน้าความประพฤติที่ดีงาม มุ่งมั่นพัฒนาการศึกษาของพุทธเยาวชน ตามกรอบการจัดการศึกษาทั้งในระบบ นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อตอบสนองการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ รู้รักสามัคคี ตามวิถีแห่งพระพุทธศาสนาโดยใช้ยุทธศาสตร์ไร้รูปแบบเป็นกระบวนเผยแผ่และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
หากมาวัดสันก้างปลาแล้ว สำหรับใครที่มีเวลาเหลือ ซักหน่อย ภายในวัดสันก้างปลา มีศูนย์วัฒนธรรมไทยเขิน ให้ได้เยี่ยมชม พร้อมร้านกาแฟสดรสชาติดีๆ ให้ได้ลิ้มลองกันอีกด้วยครับ
สถานะภาพของวัดในปัจจุบัน
• ได้รับอนุญาตตั้งเป็นวัด เมื่อวันที่ 31 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2531
• ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 27 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2538
สถานที่ที่น่าสนใจภายในวัดวัดสันก้างปลา
วัดสันก้างปลา ตั้งอยู่ในชุมชนบ้านสันก้างปลา เป็นชุมชนขนาดเล็กแห่งหนึ่งในเขตอำเภอสันกำแพง ชาวบ้านที่นี่เกือบทั้งหมดเป็นชาวไทยเขิน สืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษที่อพยพมาจากเมืองเชียงตุง ประเทศพม่า ในสมัยที่พระเจ้ากาวิละ ได้กวาดต้อนกลุ่มชาวไทยเขินให้มาอยู่เมืองเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2339 เวลาได้ล่วงเลยมากว่าสองร้อยปี แต่ชาวไทยเขินยังคงรักษาเอกลักษณ์ของชุมชนไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
ศูนย์วัฒนธรรมไทยเขิน วัดสันก้างปลา จัดตั้งขึ้นเพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวไทยเขิน และเผยแพรให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ยังเป็นการปลูกจิตสำนึกแก่เยาวชนให้มีความรักท้องถิ่น รวมไปถึงตระหนักในคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษได้สร้างสมมาหลายชั่วอายุคน
ภายในศูนย์วัฒนธรรมวัดสันก้างปลานี้ ประกอบด้วยนิทรรศการที่ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของชาวไทยเขิน เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแบบชาวไทยเขิน ทั้งที่เป็นของเก่าแก่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษและที่ตัดเย็บขึ้นมาใหม่โดยกลุ่มแม่บ้าน รวมถึงเครื่องใช้ไม้สอยในชีวิตประจำวัน ซึ่งเดิมเคยมีการจัดทำทะเบียนวัตถุ แต่ภายหลังเมื่อมีวัตถุใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่ม ทำให้เลขทะเบียนกระจัดกระจาย ทางศูนย์กำลังจัดทำเลขทะเบียนใหม่เพื่อการจัดเก็บที่เป็นระบบมากขึ้น
การจัดตั้งและการดำเนินงานพิพิธภัณฑ์เป็นความร่วมมือระหว่างวัดและชุมชน โดยชาวบ้านจะแวะเวียนมาดูแลศูนย์ฯ ถ้าผู้มาเยี่ยมชมศูนย์มีข้อสงสัยอะไร ชาวบ้านสามารถเป็นวิทยากรแนะนำและตอบคำถามได้ แต่โดยปกติแล้วพระในวัดจะเป็นวิทยากรประจำ ถือได้ว่าศูนย์แห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่สำคัญของคนในชุมชนและชุมชนข้างเคียง
วัดยังจัดกิจกรรมให้กับเยาวชน โดยเนื้อหาจะแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนธรรมะและส่วนวัฒนธรรม
อันดับแรกเป็นการบรรยายธรรมะเพื่อให้สงบจิตสงบใจและเกิดสมาธิ จากนั้นจึงนำชมศูนย์ การนำชมนี้จะไม่ยัดเยียดข้อมูลให้ผู้ชม แต่จะรอตอบข้อสงสัยเป็นเรื่อง ๆ ไป เพราะมีป้ายเขียนบรรยายรายละเอียดไว้หมดแล้ว พระวิทยากรจะแนะนำเฉพาะเรื่องที่นอกเหนือไปจากนั้น ซึ่งเป็นการกระตุ้นผู้มาชมให้คิดให้ถาม และรับข้อมูลตรงตามที่ตนสนใจได้อย่างเต็มที่และตรงวัตถุประสงค์มากที่สุด
ในปัจจุบัน ศูนย์ฯ มีความพร้อมทั้งในด้านข้อมูลและบุคลากรที่สามารถรองรับผู้สนใจมาเยี่ยมชม และศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่นชาวไทยเขินได้เป็นอย่างดี สำหรับผู้ที่มีโอกาสเดินทางผ่านไปยังอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ อย่าลืมแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชม "ศูนย์วัฒนธรรมไทยเขิน วัดสันก้างปลา" บ้าง เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ของตนเอง อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ได้อีกด้วย
ข้อมูลเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2555
การจัดการศึกษาภายในวัดสันก้างปลา
การจัดการศึกษาภายในวัดสันก้างปลานั้น จะประกอบไปด้วย
- ศูนย์วัฒนธรรม
- โครงการต้นไม้พูดได้
- โครงการวัฒนธรรมไทย สายใยชุมชน
- จัดการศึกษาธรรมศึกษาชั้นตรี (เรียนเฉพาะเสาร์-อาทิตย์)
- จัดการศึกษาธรรมศึกษาชั้นโท (เรียนเฉพาะเสาร์-อาทิตย์)
- จัดการศึกษาธรรมศึกษาชั้นเอก (เรียนเฉพาะเสาร์-อาทิตย์)
- ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์
- อุทยานการศึกษา
- สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด