• ชื่อวัด: วัดสันกลางเหนือ
• ประเภทวัด: วัดราษฎร์/พัทธสีมา
• นิกาย: มหานิกาย
• พระภิกษุ: 2 รูป
• สามเณร: 4 รูป
• ที่ตั้ง: เลขที่ 61 หมู่ 4 สันกลางเหนือ ตำบลสันกลาง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ รหัสไปษณีย์ 50130
• เนื้อที่: 3 ไร่ 3 งาน 19 ตารางวา
• โทร: 053-013382

ประวัติ
วัดสันกลางเหนือ  ตั้งอยู่เลขที่  61 หมู่  4  ตำบลสันกลาง  อำเภอสันกำแพง  จังหวัดเชียงใหม่  50130
วัดสันกลางเหนือสร้างประมาณ  พ.ศ. 2275  ตรงกับรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ  ( พ.ศ. 2251 - 2275 ) แห่งกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย  และตรงกับสมัยพระเจ้าหอคำ  (  พ.ศ. 2270 - 2304 ) แห่งราชวงศ์เม็งรายที่ปกครองล้านนาไทย ( นครเชียงใหม่ )  
วัดสันกลางเหนือนี้เดิมชื่อวัดสะหลีตุงเงิน  อันเกิดขึ้นจากการที่ได้มีชุมชนกลุ่มหนึ่ง  ซึ่งเป็นชนกลุ่มไทเขิน  ได้โยกย้ายมาเพื่อทำมาหากินในถิ่นที่พอจะเลี้ยงชีพได้ด้วยความอุดมสมบูรณ์ในการเกษตรและการหาเลี้ยงชีพตน  ชนกลุ่มไทเขินนี้จึงได้มาปักหลักลงฐานในถิ่นนี้ตั้งแต่เมื่อกาลนั้น  ซึ่งเป็นป่าไม้ไผ่ใหญ่หลวงอุดมสมบูรณ์  ป่าไม้ทุ่งหญ้าพืชพัธุ์หลากหลายมากมาย  ชนกลุ่มนี้จึงได้ลงหลักปักฐานตั้งอยู่โดบการนำของผู้ที่มีชื่อว่า  ขะหนานสะละวะ  ได้ร่วมกันถากถางให้เป็นที่ราบเลียบดีงามพอที่จะจัดตั้งที่อยู่อาศัย  ซึ่งในตอนนั้นยังมีไม่กี่ครอบครัว  จนต่อมาได้เพิ่มมาอีกรามประมาณ  30  กว่าหลังคาเรือน  ในประมาณ พ.ศ.  2275  มีเนื้อที่ที่อยู่อาศัยถากถางประมาณ  11  ไร่กว่า  ต่อมาจึงได้มีแนวคิดที่จะหาที่ยึดเหนี่ยวทางใจขึ้น  ทั้งนี้ผู้ก่อตั้งที่อยู่อาศัยเคยบวชเรียนมาก่อน  คือ ขะหนานสะละวะ  ดังนั้น  ขะหนานสะละวะ  จึงปรึกษาหารือกับผู้อยู่อาศัยร่วมกันทั้งหมดว่า  เราควรร่วมใจกันจัดสร้างหอชัยขึ้นในกลุ่มบ้าน  เพื่อเป็นที่สักการะบูาชาให้เป็นสิริมงคลต่อที่อยู่อาศัย  ตลอดตนบุคคลในกลุ่มที่มาอยู่ร่วมกันนั้น  เมื่อชาวบ้านได้กตลงกันแล้วก็จึงได้สร้างหอชัยขึ้นเพื่อเป็นการสักการบูชา  และต่อมาได้ไม่นานนัก ขะหนานสะละวะ  ก็ได้เล็งเห็นว่าตนเองก็แก่ลงประกอบผู้คนที่มาอาศัยก็มีมากขึ้นเกิดความคิดที่จะยึดเหนี่ยวผู้คนให้อยู่รวมกัน  ณ ที่นี้ก็จึงได้มีจิตที่จะบวชอีกครั้งจึงได้ตัดสินใจบวชแล้วก็อยู่ปฏิบัติศีลธรรมกัมมัฏฐาน  เป็นที่กราบไห้วของกลุ่ม  ณ  ที่นี้  โดยสร้างกุฎิอยู่ปฏิบัติและก็ได้พร้อมเกินความคิดที่จะสร้างวัดขึ้นก็จึงได้ร่วมกับชาวบ้านในกลุ่มได้ร่วมกันสร้างวัดขึ้น 

กิจกรรมที่จัดเป็นประจำทุกปี  ประกอบด้วย1) ชื่อกิจกรรม  ปีใหม่เมือง                 จัดกิจกรรมระหว่างวันที่  13 เมษายน จนถึงวันที่  16 เมษายน                 มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ  900 คน                 รูปแบบ/ลักษณะของกิจกรรม  2) ชื่อกิจกรรม  สงเคราะห์บ้าน                 จัดกิจกรรมระหว่างวันที่ หลังยี่เปง 2 วัน จนถึงวันที่  ทำพิธีกรรม 3 วัน                 มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ……………………….คน                 รูปแบบ/ลักษณะของกิจกรรม  จะทำบุญตั้งแต่หัวบ้าน 1 คืน และทำบุญกลางบ้านอีก 1 คืน จนถึงท้ายบ้านเป็นคืนสุดท้าย 3) ชื่อกิจกรรม  สรงน้ำพระธาตุ                 จัดกิจกรรมระหว่างวันที่…………………………………จนถึงวันที่ ……………………..………..                 มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ………………………. 4) ชื่อกิจกรรม  ทำบุญทานคู่อายุ                 จัดกิจกรรมระหว่างวันที่…………………………………จนถึงวันที่ ……………………..………..                 มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ  12000 คน                 รูปแบบ/ลักษณะของกิจกรรม          ทำก่อนออกพรรษา 1 เดือน กิจกรรมที่จัดในปี 2553  ประกอบด้วย 1) ชื่อกิจกรรม   เข้าพรรษา – ออกพรรษา                 จัดกิจกรรมระหว่างวันที่…………………………………จนถึงวันที่ ……………………..………..                 มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ  800 คน                 รูปแบบ/ลักษณะของกิจกรรม  2) ชื่อกิจกรรม  วันพ่อ วันแม่                 จัดกิจกรรมระหว่างวันที่…………………………………จนถึงวันที่ ……………………..………..                 มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ……………………….คน                 รูปแบบ/ลักษณะของกิจกรรม  ออกรับบินฑบาตรในหมู่บ้านเพื่อสำนึกพระคุณของบิดามารดา 3) ชื่อกิจกรรม วันปีใหม่ ต้นปี                 จัดกิจกรรมระหว่างวันที่…………………………………จนถึงวันที่ ……………………..………..                 มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ……………………….คน                 รูปแบบ/ลักษณะของกิจกรรม   อกกรับบินฑบาตรเพื่อต้อนรับปีใหม่ให้เกิดความเจริญ แก่สาธุชนทั้งหลาย

พระอธิการศราวุธ สุนฺทโร เจ้าอาวาสวัดสันกลางเหนือ

พระอธิการศราวุธ สุนฺทโร ปัจจุบันอายุ 35 ปี บวชมาแล้ว 15 พรรษา ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็น เจ้าอาวาสวัดสันกลางเหนือ

ประวัติด้านการศึกษาของพระอธิการศราวุธ สุนฺทโร

พระอธิการศราวุธ สุนฺทโร เจ้าอาวาสวัดสันกลางเหนือ จบการศึกษาศึกษาระดับปริญญาโท จากสถานบันการศึกษามหาวิทยาลัยมหามุงกุฏราชวิทยาลัย เมื่อปีการศึกษา พ.ศ.