ข้อมูลทั่วไปของวัดวัดศรีโพธาราม
- ชื่อวัด: วัดศรีโพธาราม
- ประเภทวัด: วัดราษฎร์/พัทธสีมา
- นิกาย: มหานิกาย
- พระภิกษุ: 2 รูป
- สามเณร: 4 รูป
- ที่ตั้ง: เลขที่ 92 หมู่ 5 ศรีโพธาราม เชียงใหม๋-ลำพูน ตำบลยางเนิ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ รหัสไปษณีย์ 50140
- เนื้อที่: 6 ไร่ 3 งาน 80 ตารางวา
- โทร: 053-321602
ประวัติความเป็นมา
วัดศรีโพธาราม เลขที่ 92 หมู่ที่ 5 ตำบลยางเนิ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ มีเนื้อที่รวมทั้งโรงเรียน 6 ไร่ 3 งาน 80 วา ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ 11 กิโลเมตร วัดศรีโพธาราม เดิมชื่อวัดสังกา และ "วัดศรีก่อก๊า" ความเป็นมาของวัดค่อนข้างสับสน เพราะหลักฐานการสร้างไม่ปรากฏชัด อาศัยการบอกเล่าจากเจ้าอาวาสเล่าสืบต่อๆกันมาว่า ประมาณปีพ.ศ. 2324 ได้มีพระภิกษุรูปหนึ่ง จำวัดอยู่ที่วัดพญาชมพู ตำบลชมพู อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ (ในปัจจุบัน) มีชื่อว่าพระภิกษุอินจันทร์ ท่านเดินธุดงค์ไปในที่ต่างๆ เป็นประจำ วันหนึ่งท่านกลับจากธุดงค์จะกลับวัดพญาชมพู ได้เดินผ่านมาบริเวณนั้นพอดี ก็พลบค่ำเสียก่อน ท่านจึงได้ปักกลดเพื่อจำวัดด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางไกล ห่างจากวัดศรีโพธารามนี้ประมาณ 200 เมตร ขณะที่ท่านนอนหลับสนิทในตอนดึกของคืนนั้น ท่านก็ได้ลืมตาขึ้น พอลืมตาขึ้น ท่านก็ได้เห็นแสงสว่างอันเจิดจ้าสุกใสโชติช่วง สีเขียวเป็นประกายเจิดจ้าจากลูกแก้วดวงหนึ่ง ประมาณเท่าลูกส้มโอเห็นจะได้ ลอยเวียนอยู่ทางทิศตะวันตกจากกลดของท่าน แสงสว่างจากลูกแก้วดวงนั้นทำให้บริเวณนั้นสว่างเหมือนหนึ่งเป็นกลางวัน ประมาณสักครู่หนึ่ง ลูกแก้วดวงนั้นก็ดับวูบไป บริเวณนั้นก็ตกอยู่ในความมืดเหมือนเดิม ท่านก็เข้ากลดจำวัดต่อ เช้ามืดของวันรุ่งขึ้น ด้วยความสงสัยและอยากทราบปรากฏการณ์เมื่อคืนนี้ ก็เดินไปยังที่เห็นแสงสว่างนั้น เมื่อไปถึงสถานที่นั้น ด้วยความตื่นเต้น ดีใจที่เห็นมีวิหารสภาพชำรุดทรุดโทรม และยังเห็นเจดีย์อีกองค์หนึ่ง ด้านหน้าวิหารหลังนั้น และแล้วท่านก็ถึงกับแปลกใจมากขึ้น เมื่อเห็นทางด้านหลังวิหาร คือทิศตะวันตกของวิหารมีเจดีย์องค์หนึ่ง ท่านจึงเดินตรวจดูทั่วบริเวณนั้นอย่างถี่ถ้วน ก็เห็นสิ่งปรักหักพังเกลื่อนกลาดไปทั่วบริเวณนั้น แสดงให้เห็นว่า สถานที่นี้เป็นวัดที่เคยรุ่งเรืองมาก่อน และห่างออกไปทางทิศตะวันตกของเจดีย์ประมาณ 200 เมตร มีต้นโพธิ์ใหญ่มากต้นหนึ่ง แผ่พุ่มเป็นบริเวณกว้าง ท่านเดินตรวจจนพอใจแล้ว ก็เก็บกลดกลับวัดเดิม พระอินจันทร์เดินทางกลับวัดเดิมด้วยปณิธานอันแน่วแน่ว่า จะกลับมาอีกครั้ง ท่านได้เล่าให้ญาติโยมได้ทราบ และแจ้งความตั้งใจของท่านที่จะบูรณะวัดร้างให้คืนสภาพเดิมขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นการซ่อมแซมบูรณะวัดร้างก็ดำเนินไปด้วยความคึกคักเข้มแข็ง จนพอที่จะเป็นวัดได้แต่ยังไม่สมบูรณ์ดี ญาติโยมก็พร้อมใจกันอาราธนานิมนต์ พระอินจันทร์ มาอยู่ประจำที่วัดนี้ และได้เป็นเจ้าอาวาสในเวลาต่อมา แล้วก็ตั้งชื่อวัดนี้ว่า "วัดสั๋งก๋า" อาศัยนิมิตจากเจดีย์ทั้ง 2 องค์ ด้านหน้าและหลังพระวิหาร (ปัจจุบันนี้ เจดีย์ด้านหน้าวิหารไม่มีให้เห็นแล้ว ปล่อยให้ผุพังไปตามกาลเวลา เพราะไม่สะดวกแก่การไปนมัสการพระประธานบนวิหาร แต่พื้นดินยังมีอิฐ พอที่จะรู้ว่าเป็นฐานเจดีย์ด้านหน้าวิหารอยู่) ต่อมามีญาติโยมมาอยู่เพิ่มมากขึ้น จนกลายเป็นหมู่บ้าน จึงมีการเปลี่ยนชื่อวัดอีกว่า "วัดศรีก่อเก๊า" ชื่อวัดศรีก่อเก๊าไม่มีใครนิยมเรียก จนเลือนหายไปโดยปริยาย มีแต่คนเรียกวัดสั๋งก๋าอยู่เหมือนเดิม แต่คนรุ่นใหม่เรียกว่า "วัดศรีโพธาราม"
สถานะภาพของวัดในปัจจุบัน
• ได้รับอนุญาตตั้งเป็นวัด พ.ศ. 2324
• ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พ.ศ. 2477
สถานที่ที่น่าสนใจภายในวัดวัดศรีโพธาราม
กิจกรรม ประเพณีสรงน้ำประธาตุ และสรงน้ำอัฏฐิเจดีย์ อดีตเจ้าอาวาส และสรงน้กรูปเหมือนสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหฺมรังสี เป็นกิจกรรมประจำปี วันที่เริ่ม ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 (เดือน 9 เหนือ ขึ้น 15 ค่ำ) เป็นประเพณีที่มีมานานแล้ว โดยนิมนต์พระสงฆ์จากวัดต่างๆ 50-60 วัด มาเจริญพระพุทธมนต์ ศรัทธาญาติโยมทำข้าวหม้อแกงหม้อ มาถวายเพลพระ และแห่เครื่องไทยทายเข้าทำบุญตลอดวัน
กิจกรรม พิธีบวงสรวงเสื้อวัดเสื้อวา และประเพณีสงกรานต์ วันที่เริ่ม 13-14-15 เมษายน ของทุกปี ทำบุญถวายทาน ทำความสะอาดวัด และบวงสรวงเสื้อวัดเสื้อวา เจ้าที่เจ้าทาง
ข้อมูลเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2555