วัดดอนเปา ตั้งอยู่เลขที่ ๑๗๓ หมู่ที่ ๔ ตำบลดอนเปา อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ลังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๓ ไร่ น.ส.๓ เลขที่ ๕๐ อาณาเขต ทิศเหนือประมาณ ๖๐ วา จดถนน ทิศใต้ ประมาณ ๕๖วา จดถนน ทิศตะวันตกประมาณ ๗๗ วา ทิศตะวันออก ประมาณ ๗๑ วา จดถนนคันเหมือง มีที่ธรณีสงฆ์จำนวน ๒ แปลง
เนื้อที่ ๑๐ ไร่ น.ส.๓ เลขที่ ๔๐ และอีกแปลงเนื้อที่ ๕ ไร่ ๔๙ ตารางวา อาคารเสนาสนะประกอบด้วย วิหาร ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพระเวสสันดรและพุทธประวัติ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ หอไตร หอฉันท์ อุโบสถ หอระฆัง โรงครัว ห้องน้ำ นอกจากนี้มีโรงเรียนวัดดอนเปา (กองราษฎร์นุสรณ์) เป็นโรงเรียนระดับประถม มีห้องสมุดของอำเภอแม่วาง ศาลารวมใจพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลย์เดช โรงทอผ้า ศาลาทรงในพระองค์สมเด็จพระนางพระบรมราชินีนาถตั้งอยู่ในเขตธรณีสงฆ์ วัดดอนเปาสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๗ เดิมทีวัดตั้งอยู่ในป่าชื่อวัดสันคะยอม มีครูบาธรรมทิน ธมุมทินโน อดีตสังฆราชามณหลพายัพ เป็นเจ้าอาวาสองค์แรกและองค์เดียวของวัดสันคะยอม ท่านครูบาธรรมทินเป็นพระนักปฏิบัติธรรม มีความรู้แตกฉานในด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานฐานถึงขั้นปรมัตถ์ จงมีลูกศิษย์ ศรัทธาญาติโยมเลื่อนใส มีชื่อเสียงไปทั่วมณหณพายัพสมัยนั้น จนเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่สมัยนั้น คือพระเจ้าอินทวีไชยานนท์ เจ้าผู้ครองเมืองเชียงใหม่องค์ที่ ๗ พร้อมทั้งพระธิดาพระราชชายาดารารัศมี (พระราชชายาในรัชกาลที่๕) ทรงเคารพกราบไหว้จนได้รับแต่งตั้งให้เป็ถึงสังฆราชามณพายัพ ปกครองในสมัยนั้น ๔ แขวง อำเภอคือเมืองหอด,แม่วาง,สันป่าตอง,จอมทอง หลังจากท่านครูบาธรรมทิน ได้มรณภาพลง ท่านครูบาเมธา สุเมโธ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ท่านครูบาธรรมทินได้เข้าร่วมกันลูกศิษย์ศรัทธาชาวบ้านย้ายวัดเนื่องจากห่างไกลจากบ้านมาก การเดินทางไปทำบุญของศรัทธาไม่สะดวก ในสมัยนั้นโจรชุกชุมมาก พระอธิการเมธา สุเมโธ จึงได้เข้าร่วมกับศรัทธาชาวบ้านย้ายวัดมาสร้างใหม่ ณ ที่ตั้งปัจจุบันและเปลี่ยนชื่อวัดสันคะยอมเป็นดอนเปา สันนิษฐานว่าที่ตั้งปัจจุบันมีต้นไม้ขึ้นเยอะ ต่อมาเหลือแต่ดอนเปาและครูบาบุญบากับลูกศิษย์อีกท่านได้ไปสร้างสร้างวัดรังสีสุทธารามและพ่อหนานคำสุขตอนนั้นเป็นพระอีกรูปได้ไป สร้างวัดชัยมงคลขึ้นอีกวัดหนึ่ง การบริหารและการปกครองของวัดดอนเปา มีเจ้าอาวาสที่ทราบนาน
• ได้รับอนุญาตตั้งเป็นวัด พ.ศ. 2457
• ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 29 เดือน กันยายน พ.ศ. 2541