ที่ตั้งสมัยก่อนเป็นป่าไม้ มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มาก ต่อมาชาวบ้านศาลาหลวงได้ข้ามน้ำวังมาถางป่าแห่งนี้เป็นที่ทำกินลงหลักปักฐานปลูกบ้านเป็นที่อยู่อาศัย ในสถานที่นี้มีหนองน้ำใหญ่อยู่ ๑ แห่งชาวบ้านได้สร้างศาลาพักร้อนไว้ริมหนองน้ำเพื่อเป็นที่พักริมทางสำหรับคนที่เดินผ่านมา สมัยก่อนชาวมอญหรือเม็งมักเดินทางมาค้าขายและมาพักที่ศาลานี้ประจำชาวบ้านจึงเรียกว่า”ศาลาเม็ง”ต่อมาก็ตั้งเป็นชื่อหมู่บ้านและได้นิมนต์พระสงฆ์จากวัดศาลาหลวงมาอยู่จำพรรษาที่วัดรูปหนึ่งมีฉายาว่า”พระคุณเจ้าวังกาวี”เป็นพระสงฆ์รูปแรกที่ได้แยกจากวัดศาลาหลวงมาอยู่วัดศาลาเม็งเมื่อเดือน ๖ ปีเล้า(ระกา) วันที่ ๙ ธันวาคม ๒๔๒๘
จังหวัดลำปาง สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๑ ไร่ ๓ งาน ๑๐ ตารางวา อาณาเขต ทิศเหนือ จดบ้านราษฎร ทิศใต้ จดบ้านราษฏร ทิศตะวันออก จดแม่น้ำวัง ทิศตะวันตก จดบ้านราษฎร ที่ธรณีสงฆ์จำนวน ๑ แปลง เนื้อที่ ๖ ไร่ อาคารเสนาสนะประกอบด้วย อุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิ วิหาร และศาลาบาตร ปูชนียวัตถุ มีพระประธานในอุโบสถ
วัดศาลาเม็ง สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๘ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา วันที่ ๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ เขตวิสุงคามสีมา กว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๒๐ เมตร การบริหารและการปกครอง มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนาม คือ พระกาวี พระพิมพิสาร พระยารังสี พระโน พระโสภน พระเกสโล พระแสน พระจันตา พระนิพนธ์ พระบุญพร้อม พระไพโรจน์ โชติโก และพระอธิการสะอาด สุทฺธิญาโณ เป็นเจ้าอาวาสในปัจจุบัน