• ชื่อวัด: วัดห้วยสิงห์
• ประเภทวัด: วัดราษฎร์/พัทธสีมา
• นิกาย: มหานิกาย
• พระภิกษุ: 1 รูป
• ลูกศิษย์วัด: 4 คน
• ที่ตั้ง: เลขที่ 131 หมู่ 4 ห้วยสิงห์ ตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน รหัสไปษณีย์ 58110
• เนื้อที่: 2
• โทร: 053-687039

เมื่อประมานปี 2473 ชาวหมู่บ้านห้วยสิงค์ได้สร้างสำนักสงฆืขึ้นมาปัจจุบันคือวัดห้วยสิงค์โดยมีพระภิกษุ บุญ เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกหลังจากพระภิกษุมรณะไปพระตุ้ยซึ่งเดินทางจากจังหวัดน่านเป็นเจ้าอาวาสต่อจากพระภิกษุบุญเวลาต่ออมานายปิงจันทราได้มาบวชเป็นพระโดยมีพระปัญญาวรวัฒน์(ครูบา ผาผ่า)เมื่อพระตุ้ยมรณะภาพไปพระปิงจันทราจึงเป็นเจ้าอาวาสเมื่อพระปิงจันทราจำพรรษาได้20พรรษาก็มีพระเพิ่มขึ้น6รูป คือพระปิงจันทรา พระบุญตัน สิงห์สูตร  พระถา ดวงทิพย์ พระอินทร ดวงฟู พระเเสน อินต๊ะ พระจันทร์ น่านกร ขณะนั้นพระปิงก็ได้สร้างพระพุทธรูปขึ้นมา1องค์โดยมีนายติ๊บซึ่งเป็นคนจังหวัดลำพูนเป็นช่างปั้นพระพุทธรูป และได้ประดิษฐไว้บนอาาครวัดเมื่อพระปิงลาสิกขาไปพระบุญตัสสิงค์สูตร์ ก็เป็นเจ้าอาวาสเเทนหลังจากพระบุญตันลาสิกขาไปพระอินล่ม ทองวฤทธิ์เป็นเจ้าอาวาสเมื่อประกรเพิ่มมากขึ้นได้มีการจัดตั้งโรงเรียนภายในวัดโเมื่อพระอินล่มลาสิกขาไปพระไฝ น่านกร เป็นเจ้าอาวาสได้10พรรษาก็ลาสิกขาไป วัดก้ร้างไปรระยะหนึ่งต่อมาพระตั๋นบุญมาคำ ก็มาเป็นเจ้าอาวาสหลังจากพระตั๋นลาสิกขาไปวัดก็ร้างไประยะหนึ่ง ศรัทธาได้ไปนิมนณ์สามเณรแก้วจากวัดมาจำพรรษาจนกระทั้งได้อุปสมบทเป็นพระและได้เป็นเจ้าอาวาสหลังจากนั้นพระแก้วจึงได้ลาสิกขาไปพระเก้งจจรึงได้มาเป็นเจ้าอาวาสแทนเมื่อพระเก้งลาสิกขาไปพระบุญช่วยซึ่งเดินทางมาจากเชียงใหม่เป็นเจ้าอาวาสได้สร้างกำแพงวัดพร้อมรูปปั้นสิงห์ทั้งหมดเมื่อพระบุญช่วยกลับเชียงหใม่พระสูรศักดิ์ก็มาเป็นเจ้าอาวาสเมื่อพระสูรศักดิ์เดินทางกลับไปเชียงใหม่เพื่อศึกษาพระธรรม พระวิวัฒน์ ยโสธโรมาจากกรุงเทพเป้นเจ้าอาวาสแทนพระวิวัฒน์พร้อมศรัทธาทุกคนได้สร้างกุฏิศาลาและพระอุโบสถขึ้นมาวันที่3กุมภาพันธิ์ พ.ศ 2532 หลังจากพระวิวัฒน์ลาสิกขาไปพระเกษม อินทจักโก เป็นเจ้าอาวาสได้12พรรษาพระเกษมพร้อมคณะศรัทธาได้สร้างพระมหาเจดีย์(พระธาตุเกศแก้วสิงค์ชัย)ขึ้น1องค์ซึ่งได้รับพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุจากองค์สมเด็จพระสังฆราช สังฆรินายยกหลังจากพระเกษมลาสิกขาไป พระกษิณ ชยานนฺโทเป็นเจ้าอาวาส เมื่อพระกษิณไปจำพรรษาอยู่วัดแม่คะตอน พระชวลิต อาทโร จึงรักษาการเเทนเจ้าอาวาสจนถึงปัจจุบัน

• ได้รับอนุญาตตั้งเป็นวัด พ.ศ. 2474
• ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 21 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2534

พระธาตุเกตแก้วสิงห์ชัย เป็นพระมหาเจดีย์สารีริกธาตุที่สร้างขึ้นเมื่อวันที่3พฤษภาคม 2550ซึ่งเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนหรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาหมู่บ้านห้วยสิงห์ ก็จะมากราบไหว้สักการะบูชาเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต นอกจากนั้นก็ยังเป็นความเชื่อของประชาชนด้วยว่า ถ้าได้ทราบถ้าได้กราบไหว้บูชาและสงห์นํ้าพระธาตุก็จะทำไห้ชีวิตประสบพบเจอแต่ความสุขความเจริญในชีวิต

พระชวลิต อาทโร เจ้าอาวาสวัดห้วยสิงห์

พระชวลิต อาทโร ปัจจุบันอายุ 23 ปี บวชมาแล้ว 3 พรรษา ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็น รักษาการเจ้าอาวาสวัดห้วยสิงห์

ประวัติด้านการศึกษาของพระชวลิต อาทโร

พระชวลิต อาทโร เจ้าอาวาสวัดห้วยสิงห์ จบการศึกษาศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือ อนุปริญญา จากสถานบันการศึกษาวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน เมื่อปีการศึกษา พ.ศ.

พระบุญ	ไม่ทราบปี พ.ศ. ที่แน่นอน
พระตุ้ย	ไม่ทราบปี พ.ศ. ที่แน่นอน
พระปิง จันทารา	ไม่ทราบปี พ.ศ. ที่แน่นอน
พระบุญตัน สิงห์สูตร	ไม่ทราบปี พ.ศ. ที่แน่นอน
พระอินสม ทองวาฤทธิ์	ไม่ทราบปี พ.ศ. ที่แน่นอน
พระไฝ น่านกร	ไม่ทราบปี พ.ศ. ที่แน่นอน
พระตั๋น บุญมาคำ	ไม่ทราบปี พ.ศ. ที่แน่นอน
พระแก้ว	ไม่ทราบปี พ.ศ. ที่แน่นอน
พระเต้ง สมจิตร	ไม่ทราบปี พ.ศ. ที่แน่นอน
พระสิงห์ ไชยสูตร	ไม่ทราบปี พ.ศ. ที่แน่นอน
พระอินเหลา วงษา	ไม่ทราบปี พ.ศ. ที่แน่นอน
พระสุรศักดิ์ สุรสักโก	ไม่ทราบปี พ.ศ. ที่แน่นอน
พระวิรัตน์ ยโสธโร	ไม่ทราบปี พ.ศ. ที่แน่นอน
พระเกษม อินทจักโก	ไม่ทราบปี พ.ศ. ที่แน่นอน
พระกษิณ ชยานันโท	ไม่ทราบปี พ.ศ. ที่แน่นอน
พระชวลิต	ไม่ทราบปี พ.ศ. ที่แน่นอน

ปัจจุบันชาวบ้านสื่อสารกันด้วยภาษาพื้นเมืองเเต่เดิมนั้นชาวบ้านเป็นคนลั๊วเเต่กำเนิด ครอบครัวลั๊วในปัจจุบันเหลืออีก 4 หลังคาเรือน

จัดเตรียมแผงไม้2แผงมีลูกส้มของหวาน ขนม หมาก ผล กล้วยอ้อย มีรูปเป็ดไก่หมูหมาช้างม้าวัวควาย หญิงชาย มีนํ้าส้มป่อยเมื่อจัดเตรียมของเสร็จนำไว้ในแผงเอาฝ้ายมงคลล้อมรอบ แล้วพ่อหนานหรือให้สล่า โอกาศ เมื่อเสร็จแล้วก็นำแผงที่มีของหวานหรือรูปต่างๆออกไปไห้พ้นจากบ้าน พรมนํ้ามนต์ไห้กับชาวบ้านที่มาร่วมส่งเคราะห์เป็นอันเสร็จพีธี

จัดเตรียมไม้งามใหญ่ยาว1วาผู้ประสงค์3เล่มไม้ง่ามเล็กยาว 1 ศอก ผู้ประสงค์เท่าอายุไม่ขั่ว 1 อัน กระบอกนํ้ากระบอกทรายอย่าละ 1 กระบอก ข้าวเหลือก 1 กระบอก ข้าวสาร1กระบอกมีลวดเงินลวดทองมีก๋งบุรีหมากพลูกล้วย 1 เครือ มะพร้าว 1 เครือ สาดหมอดู ข้าวตอกหม้อเงินหม้อทองกล้าข่ากุกอ้อยหมาก มะพร้าว เอาวางไว้กับไม้ง้ามใหญ่ 3 ขาจัดเตรียมเสร็จเเล้วนิมนต์พระมาสวดพุทธมนต์ หลังจากสวดเสร็จผูกข้อมือพรมนํ้ามนต์ เสร็จพีธี

1.นำก้านมะพร้าวนำใบออกตากแดดไว้สองวัน
2.นำก้านที่เเห้งดีเเล้วมัดรวมเป็นกำละ 30 อัน จำนวน12มัด
3.นำมาถักเรียงกันเป็นรูปเฝือกรัดด้วยเชือกถักมาประกอบกับด้านไม้ที่เตรียมไว้มัดด้วยลวดตอกตะปูไห้แน่นกันเลื่อนขึ้นลงของไม้กวาด
4.แบ่งถักด้วยเชือกถักเป็น24กำ จากเดิม12กำดึงไห้เเน่น
5.เเซมด้วยก้านมะพร้าวอีกครั้งเพื่อไห้ไม้กวาดแน่นหนาขึ้น 

ใช้ในงานพิธีต่างๆเช่นในการแห่ต้นเข้าวัด ตานแตน ประเพนีสรงนํ้าพระธาตุจุดปั้งไฟเป็นต้น

ใช้สำหรับในงานพิธีปอยหลวงและแสดงการฟ้อนเล็บ ต้อนรับแขกที่จะมาร่วมงานในพิธีต่างๆของชาวล้านนา